https://www.aspjzy.com เจอทีมโหด 5 ใน 8 นัด รั้งที่ 3 “หงส์” ดีเกินเป้า
- wilaiwansoponma
- 9 พ.ย. 2563
- ยาว 1 นาที
ผลเสมอที่ เอติฮัท สเตเดียม บอกได้แค่ว่า ลิเวอร์พูล ได้ปิดโอกาสตัวเองทันทีที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนเอา โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ ออกตั้งแต่นาที 59
เป็นการเปลี่ยนที่แอบเร็วไปนิดหากมองถึงประโยชน์ที่เล่นบอล impact ต่อการขึ้นเกมของ “หงส์แดง” ได้ดีเอามากๆ
เมื่อกลางสัปดาห์เพิ่งมีกระแส เดอะ ค็อป หลายคนพูดถึงการขึ้นมาของ ดิโอโก้ โชต้า แทนตำแหน่งของ “บ็อบบี้”
แต่วันนี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าการอยู่ในสนามของทั้ง ฟีร์เมียโน่ และ โชต้า อยู่ที่ว่าฝั่งตรงข้ามคือใครและเล่นยังไง
ผมมองแบบมโนคิดเอาเองว่า JK เกิดไอเดียที่ส่งทั้ง 2 คนลงพร้อมกันโดยมีเหตุผลต่างกัน
โชต้า แน่นอนครับฟอร์มระเบิดขนาดนี้จับนั่งสำรองแกคงตอบลูกน้องลำบากเพราะปรัชญาของ คล็อปป์ ไม่สนใจชื่อชั้นแต่อยู่ที่ฟอร์ม
ในขณะที่ ฟีร์เมียโน่ อันนี้ชัดเจนว่าร่วมเป็นร่วมตายและเป็นผู้เบิกเนตรจน “หงส์แดง” เป็นเต้ยในระบบ 4-3-3 ดัวนั้นการรีบด่วนให้นั่งสำรอง 2 นัดติดคงเป็นอะไรที่ดู “เล่นใหญ่” เกินไป
ครึ่งแรกเราเห็นหลายครั้งที่ “บ็อบบี้” ลงมาล้วงบอลต่ำพร้อมดึงตัวประกบก่อนพักและเปลี่ยนจังหวะเกมที่กำลังตันให้เป็นเกมรุกได้ดีกว่าที่ใครจะทดแทนได้
สิ่งเดียวที่ “โน่” เหมือนจะไม่เอาแล้วคือการจบสกอร์ วิญญาณเพชฆาตที่เคยมีอยู่บ้างแบบเมื่อก่อนคือหายไปเลยดังเช่นจังหวะนาทีแรกที่หลุดไปเดี่ยวกับ เอแดร์ซอน แต่ไม่ยกกระดกข้ามหัวจนไม่ได้อะไรเลยนั่นแหละครับ
อย่างไรก็ตามผมว่าการทดลองจัดตัวแบบนี้ยังมีแววไปได้อยู่นะหากมองในช่วงครึ่งแรกที่ ลิเวอร์พูล สร้างโอกาสและทำเอา ซิตี้ เป๋อยู่พักใหญ่ๆ
ถือว่าสัปดาห์นี้ 2 นัด JK น่าจะเห็นระบบใหม่กับการปรับและยืดหยุ่นการเล่นที่ไม่ยึดติดกับ 3 ตัวบนแบบเดิม คู่ต่อสู่เองก็จับทางยากด้วย
ดังนั้นเป็นอีกครั้งที่ต้องบอกว่า อตาลันต้า กับ แมนฯซิตี้ เล่นต่างกัน คุณภาพผู้เล่นต่างกันการเลือกใช้ โชต้า มาเล่นหน้าและเอา เชอร์แดน ชาร์กิรี่ แทน ฟีร์เมียโน่ เพื่อเล่นบอลสวนกลับโดยใช้ความเร็วของอดีตแข้ง วูลฟ์ ไม่สามารถใช้กับทีมของ เป๊ป ได้
บอลพักไม่ได้ สวนกลับลำบาก จับเป็นถึงพลิกเป็นแซะ ทำให้ “หงส์แดง” เล่นเหมือนยอมเอา 1 แต้มที่ยังไงก็ไม่เสียหายกับแต้มที่ตุนไว้ก่อนหน้านี้
หากเรามองในมุมที่ว่า ลิเวอร์พูล เจอใครมาบ้างตลอด 8 นัดและชนะถึง 5 ถือว่าเกินเป้านะครับ (โดยเฉพาะในวันที่ไม่มี VvD) ถอนเงินจากufabet
ลีดส์, เชลซี, อาร์เซนอล, เอฟเวอร์ตัน และ แมนฯซิตี้ ชนะ 2 เสมอ 2 และอยู่อันดับ 3
ซึ่งเป็นอันดับ 3 ที่ตาม “จ่าฝูง” สเปอร์สแค่แต้มเดียว หมายความว่าแพ้ชนะในสัปดาห์เดียวกันมันเปลี่ยนมือกันเดี๋ยวนั้นเลยไม่ใช่แค่ลดช่องว่างเฉยๆ
ยิ่งดูดีเอามากๆด้วยนะครับหากเราหยิบ “เรือใบ” มาเทียบกัน ลูกทีม เป๊ป กวาดิโอล่า เพิ่งเจอ อาร์เซนอล ที่เราพอกล้อมแกล้มได้ว่าเป็นทีมใหญ่รวมถึง ลีดส์ (ที่ ลิเวอร์พูลเอาชนะได้แต่ ซิตี้ เสมอ)หรืออาจจะพูดได้แล้วในตอนนี้ว่า “ผ่าน” อาวุธหนักอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ มาแล้ว (แพ้ยับ 5-2)
แต่ผลเสมอความรู้สึกของทั้งสองทีมต่างกันโดยสิ้นเชิงคือ “แชมป์เก่า” เดินออกจากสนามในแบบที่ว่าไม่เสียหายอะไรแต่ เป๊ป เสมอเกมนี้ทำให้ต่อให้ชนะในเกมตกค้างก็ยังไม่แซง “หงส์แดง” ที่เจ้าตัวตั้งใจจะตัดแต้มและลดช่องว่างตรงนี้ในอนาคตด้วย
ปีนี้เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า แมนฯซิตี้ เล่นไม่ดุดันและมีประสิทธิภาพเหมือนเก่าโดยเฉพาะวันนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ห่างไกลจากมาตรฐานตัวเองไปเยอะ
ในขณะที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยังกลับเข้าฝั่งไม่เจอ ทุกๆครั้งที่ได้บอลไม่มีความรู้สึกว่าจะสร้างสิ่งมหัศจรรย์อะไรได้เลย ลำพังแค่เลี้ยงหรือจับไม่ให้บอลลั่นก็ถือว่าบุญหัวแล้ว
ซิตี้ ตอนนี้ขาดตัวสร้างสรรค์เกมที่มีวิชั่น การพึ่งพา KDB มากเกินไปพอฟอร์มหลุดตัวอื่นแทบช่วยอะไรไม่ได้เลย
จังหวะ speed การเล่นของ “เรือใบ” ในซีซั่นนี้อย่างที่เราเห็นกันคือช้าไปเยอะ บอลเจาะตรงกลางน้อยมากและมักไปเสียเวลาตรงริมเส้น
การมี เฆซุส หน้าธรรมชาติที่สามารถพลิกบอลในพื้นที่แคบๆจนเป็นที่มาของประตูตีเสมอและแม้ กุน อเกวโร่ จะหายเจ็บกลับมาได้แต่ด้วยอายุอานามคงให้แกลงถี่ๆระยะยาวคงไม่ไหว
“ซิตี้” จะกลับมาดุและปลุกพวกริมเส้นให้กลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้งหากเทงบซื้อหน้าโหดๆซักตัวในตลาดปีหน้า
แม้เกมรุกของ ซิตี้ ขาดความน่ากลัวและขู่ฝั่งตรงข้ามไม่ได้เหมือนเก่าแต่การ “เพรส” ยังไม่หายไปไหน
มุกเก่าแต่เป็นทีเด็ดของ เป๊ป ทำให้ “หงส์แดง” build up บอลจากแดนหลังแทบไม่ได้เลย จบลงด้วยการหวดสาดซึ่งพวก 3 ตัวบนเล่นลูกหัวสู้แนวรับของเจ้าถิ่นไม่ได้อยู่แล้ว
บอลเลยถูกกดหนักซึ่งอย่างที่บอกครับถ้านี่เป็น “เรือใบ” ปีสองปีก่อนสกอร์น่าจะขาดไปแล้ว
โควต้านัดละลูกของ ซิตี้ อาจต้องเน้นกันใหม่ครับเพราะ 2 นัดต่อไปหลังเบรกทีมชาติเจอทั้ง เบิร์นลีย์ และ ฟูแล่ม ซึ่งจะเป็นโอกาสดีที่สุดในการตุนประตูก่อนเจอทีมวนลูปอย่าง แมนฯยูไนเต็ด
เรื่องแย่ที่สุดจากเกมนี้ของ “หงส์แดง” คือการเสีย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่ล่าสุด เจมส์ เพียร์ซ กูรูชื่อดังทวิตสั้นๆแต่ทำให้แฟนบอลสะดุ้ง
“ผลการสแกนจะยืนยันความเสียหายที่แน่ชัดแต่ดูไม่ค่อยดีเลยสำหรับ เทรนต์ เขาจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของทีม”
เรียกว่าวิบากกรรมในแผงหลังของ ลิเวอร์พูล ยังดำเนินต่อไป คนนึงหายกลับมาอีกคนเจ็บและดันมาเป็นตัวที่หาอะไหล่ยากกว่าเซนเตอร์ซะด้วย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกมฝั่งขวา การเติมเกมรุกและเปิดบอลของ TAA หาใครแทนไม่ได้จริงๆ น้าเจมส์ มิลเนอร์ ลงมาวันนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าสภาพการขึ้นเกมจะเป็นยังไงต่อไป
และ “หงส์แดง” ต้องเจอกับบททดสอบในการปรับแท็คติกส์อีกครั้ง
ต้องตามดูกันต่อครับว่าอาการบาดเจ็บจะ cover เบรกทีมชาติพอดีหรือจะเจ็บยาวกว่านั้น
เป็นแฟน “หงส์” ทำไมมันเหนื่อยๆยังไงไม่รู้แฮะ… https://www.aspjzy.com
Comments